มูลนิธิดวงใจพ่อ
ได้ย้ายสำนักงานใหญ่จากอำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย มาอยู่ที่บ้านเลขที่ 47 หมู่ที่ 17
บ้านขัวแคร่ ตำบลบ้านดู่ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย อย่างเป็นทางการ
โดยถูกต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2564
ทั้งนี้เป็นไปตามมติคณะกรรมการมูลนิธิดวงใจพ่อ
ที่ต้องการขยายขอบเขตงานด้านสงเคราะห์และพัฒนาตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิให้เกิดประโยชน์ต่อกลุ่มเปราะบางในจังหวัดเชียงราย
ที่มีความเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือในมิติต่าง ๆ มากที่สุด
อีกทั้งเพื่อเป็นศูนย์กลางของการประสานงาน
รวมถึงรองรับกิจกรรมร่วมกันของสาขาและเครือข่ายต่าง ๆ ของมูลนิธิดวงใจพ่อ
โดยกลุ่มเปราะบางซึ่งเป็นคนชายขอบสังคมกลุ่มแรก
ที่มูลนิธิดวงใจพ่อ สำนักงานใหญ่ เชียงราย
กำลังทำความรู้จักและร่วมเป็นเพื่อนเดินทางไปด้วยกัน พร้อมกับภาคีเครือข่ายต่าง ๆ
นับตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2565 คือกลุ่มแรงงานข้ามชาติและครอบครัวในเขตเมืองเชียงราย
ซึ่งปรากฏตัวอย่างชัดเจนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563
โดยเริ่มต้นจากการให้ความช่วยเหลือพื้นฐานที่จำเป็นในการใช้ชีวิตประจำวัน
คือการสื่อสารภาษาไทย ภายใต้ โครงการการศึกษาเพื่อชีวิตและวัฒนธรรมแรงงานข้ามชาติ
ในเขตเมืองเชียงราย
ซึ่งเป็นโครงการที่ทางมูลนิธิดวงใจพ่อได้เริ่มต้นกับพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ในเขตอำเภอแม่สรวย
นับตั้งแต่ก่อตั้งมูลนิธิดวงใจพ่อ ในปี พ.ศ. 2551 โดยครั้งนี้
จะเป็นโครงการที่มูลนิธิดวงใจพ่อ ดำเนินงานร่วมกับศูนย์วิจัยนวัตกรรมสังคมเชิงพื้นที่
สำนักวิชานวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และ
ศูนย์ช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติจังหวัดเชียงราย
นอกจากกลุ่มคนข้ามชาติแล้ว
มูลนิธิดวงใจพ่อ เชียงราย ยังมีแผนงานในการทำงานสงเคราะห์และพัฒนากลุ่มผู้ป่วย
และผู้ต้องขังที่เพิ่งออกจากเรือนจำ รวมถึงงานด้านการศึกษาอบรมในมิติด้านสังคม
ให้แก่ผู้นำกลุ่มชาติพันธุ์ในเครือข่ายของมูลนิธิดวงใจพ่ออีกด้วย
ข้อมูล ณ วันที่ 18 มกราคม 2565